การขายผ่อนชำระเป็นรูปแบบการขายสินค้าหรือบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภค โดยให้ผู้บริโภคสามารถชำระค่าสินค้าหรือบริการเป็นงวดๆ แทนการชำระทั้งหมดในครั้งเดียว ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับสินค้าที่มีราคาสูงหรือบริการที่มีค่าใช้จ่ายมาก
การขายผ่อนชำระคืออะไร?

การขายผ่อนชำระ (Installment sales) หมายถึง วิธีการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ผู้ซื้อสามารถรับมอบสินค้าหรือเริ่มใช้บริการได้ทันที แต่จะทยอยชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการเป็นงวดๆ ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา แทนการจ่ายเงินทั้งหมดในคราวเดียว การขายลักษณะนี้มักกำหนดให้ผู้ซื้อจ่ายเงินดาวน์หรือค่างวดแรกเป็นจำนวนหนึ่งก่อน จากนั้นจึงผ่อนชำระส่วนที่เหลือเป็นงวดๆ ภายในระยะเวลาตามที่ระบุในสัญญา เพื่อแบ่งเบาภาระการจ่ายเงินจำนวนมากครั้งเดียว แต่ผู้ขายก็จะมีภาระหรือความเสี่ยงเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายหลังการขายค่อนข้างสูง
ลักษณะของการขายผ่อนชําระ

1. สัญญาขายผ่อนชําระ
- การขายผ่อนชําระมักจะจัดทำเป็นสัญญาเช่าซื้อ (Hire purchase) ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
- มีการทำสัญญาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเป็นลายลักษณ์อักษร
- ระบุรายละเอียดต่างๆ อย่างชัดเจน เช่น ราคาสินค้า จำนวนงวด อัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขการผิดนัดชำระ เป็นต้น
- มีอำนาจบังคับในเรื่องกรรมสิทธิ์และอำนาจในการยึดคืนสินค้าเมื่อมีการผิดเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
- อาจมีการวางหลักประกันหรือผู้ค้ำประกันเพิ่มเติม เพื่อเป็นหลักประกันการชำระหนี้
2. การขายสินค้าผ่อนชําระ
- เหมาะกับสินค้าราคาสูงที่ผู้บริโภคไม่สามารถชำระครั้งเดียวได้
- ผู้ซื้อสามารถครอบครองและใช้งานสินค้าได้ทันทีหลังจากทำสัญญา
- เพื่อเป็นการรักษาสภาพคล่องของกิจการเนื่องจากมีระยะเวลาเก็บหนี้ที่ยาวนาน ราคาสินค้าจึงมีการรวมดอกเบี้ยของการผ่อนชำระไว้แล้ว โดยผู้ขายจะเป็นผู้กำหนดอัตราดอกเบี้ย
3. การชําระเงินของการขายผ่อนชําระ
- ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินดาวน์ (Down payment) หรือเงินวางเริ่มแรกจำนวนหนึ่งในวันที่ขายสินค้า
- จ่ายค่างวดเป็นรายเดือน ไตรมาส หรือตามระยะเวลาที่กำหนด
- ระยะเวลาการผ่อนชำระโดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่อาจแตกต่างกันไปตามข้อตกลงในสัญญา
- ผู้ซื้ออาจต้องมีการชำระค่าปรับหากผิดนัดชำระ
การขายผ่อนชำระนิยมใช้กับสินค้าราคาสูงที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่อาจไม่สามารถชำระครั้งเดียวได้ เช่น รถยนต์ บ้าน เครื่องจักร หรือการให้บริการที่มีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งมีข้อดีในการช่วยกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มโอกาสการขายสินค้าราคาแพง
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ขายควรคำนึงถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ซื้อ จึงจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการบัญชีลูกหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดทำสัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องเพื่อเป็นหลักประกัน นอกจากนี้ ผู้ซื้ออาจต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือมีบุคคลค้ำประกันร่วมด้วย เพื่อลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้
แหล่งอ้างอิง:
ผู้ช่วยศาสตราจารย์มณฑา เอมสวัสดิ์. การบัญชีชั้นสูง 1 (Advanced Accounting 1).